2/07/2554

10 อันดับมหาเศรษฐีพันล้านเหรียญ ที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก (Top 10 Billionaire the youngest in the world)

   วันนี้ สาระเอ็นจอยโลก (saraenjoyworld) จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับมหาเศรษฐีของโลกที่อายุน้อยที่สุดค่ะ ซึ่งจัดอันดับโดย Forbes แต่เป็นอันดับของเมื่อปีที่แล้ว 2010 นะคะ สำหรับปีนี้ต้องคอยติดตามดูต่อไปค่ะ แล้ว สาระเอ็นจอยโลก(saraenjoyworld) จะติดตามข่าวมาให้เพื่อนๆ ได้ทราบอย่างแน่นอนค่ะ


   การจัดอันดับมหาเศรษฐีโลกโดยนิตยสาร Forbes ในแต่ละปีนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า อันดับที่ 1 คือการแย่งชิงกันระหว่าง Carlos Slim Helú เจ้าพ่อโทรคมนาคมของเม็กซิโก (อันดับ 1 ประจำปี 2010), Bill Gates ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsofts และ Warren Buffett พ่อมดแห่งการลงทุน ซึ่งซ้ำซากเช่นนี้มาหลายปี จนแทบไม่มีอะไรน่าสนใจ
แต่ที่กำลังเป็นที่สนใจของผู้คนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ก็คือ Forbes ได้จัดอันดับมหาเศรษฐีระดับพันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 30,00 ล้านบาท) ที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก ประจำปี 2010 มหาเศรษฐีวัยหนุ่มสาวเหล่านี้ กลายไอดอลของคนรุ่นใหม่ที่หวังเจริญรอยตามได้แม้เพียงเศษเสี้ยวหนึ่งก็ยังดี


   เราลองมาดูกันว่า หนุ่มสาวทั้ง 10 นี้คือใคร ? หน้าตาเป็นอย่างไร และเพราะอะไร ? พวกเขาจึงมีทรัพย์สินมูลค่าหลายหมื่นล้านบาทได้ภายในเวลาแค่ไม่กี่ปี พร้อมจะรู้จักมหาเศรษฐีของโลกวัยเยาว์รึยังคะ ถ้าพร้อมแล้ว saraenjoy จะแนะนำให้รู้จักทีละท่านนะคะ เริ่มตั้งแต่อันดับที่ 10 กันก่อนเลยค่ะ


10. Shahid Balwa (INDIA)

อายุ : 36 ปี
ชาติ : อินเดีย 

ทรัพย์สิน : 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ 
ที่มาของความมั่งคั่ง : อสังหาริมทรัพย์ 
Shahid Balwa ต้องออกจากการเรียนแล้วอพยพตามครอบครัวจากแคว้นคุชราตมาอยู่ที่เมืองมุมไบ เขาเริ่มต้นทำธุรกิจร้านอาหาร จากนั้นก็ย้ายมาทำงานโรงแรม ก่อนจะจบลงด้วยการร่วมหุ้นกับสหายรุ่นพี่ชื่อ Vinod Goenka เพื่อทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในนามบริษัท DB Realty และ DB Etisalat บริษัทโทรคมนาคมในเวลาต่อมา 
ปัจจุบันบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของทั้งคู่มีพื้นที่พัฒนาโครงการมากถึง 60 ล้านตารางฟุต รวมไปถึงโครงการ Turf Estate ที่เป็นโครงการบ้านพักสุดหรู และโรงแรม Park Hyatt ทางตอนใต้ของเมืองมุมไบ ซึ่งมีความสูงถึง 108 ชั้น และจะเปิดให้บริการในปี 2013 เป็นที่กล่าวขานกันว่า คู่หูต่างวัย Shahid Balwa และ Vinod Goenka มีสายสัมพันธ์อันดีกับนักการเมืองในรัฐบาลอินเดีย 



9. Kostyantin Zhevago (UKRAINE) 

อายุ : 36 ปี
ชาติ : ยูเครน 

ทรัพย์สิน : 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ 
ที่มาของความมั่งคั่ง : ธุรกิจธนาคาร และเหมืองแร่ 
Kostyantin Zhevago เกิดในตระกูลวิศวกรเหมืองแร่ แต่ตัวเขาจบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์จาก Kiev National Economic University และขณะที่อายุเพียง 19 ปี และยังเรียนอยู่นั้น เขาก็ได้ทำงานไปด้วย โดยเป็นหัวหน้าพนักงานฝ่ายการเงินของธนาคาร Finances and Credit ในยูเครน 
เขาใช้เวลาเพียง 3 ปีก็กระโดดขึ้นมานั่งตำแหน่งประธานของ Finances and Credit ในปี 1996 และพัฒนามันจนกลายเป็นหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของยูเครนในปัจจุบัน พร้อมกับกวาดซื้อหุ้นจนเขากลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคาร Finances and Credit  
อีกด้านหนึ่ง Kostyantin Zhevago ก็มาจับธุรกิจเหมืองแร่เหล็กที่ครอบครัวเขาถนัด ด้วยการซื้อหุ้นของ Ferrexpo บริษัทสวิตเซอร์แลนด์ที่เข้ามาทำเหมืองแร่เหล็กในยูเครน จน Kostyantin Zhevago กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทแห่งนี้อีกเช่นกัน เขาสามารถผลักดันจน Ferrexpo กลายเป็นบริษัทแรกของยุโรปตะวันออกที่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน เมื่อปี 2007 
แม้ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำอย่างมากในไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ จะทำให้ราคาหุ้นของ Ferrexpo ตกลงถึง 94% ภายใน 5 เดือน และ Zhevago ถูกบังคับให้ขายหุ้นออกไปถึง 21% แต่เขาก็ยังคงเป็น CEO ของบริษัทอยู่ ส่วนธนาคาร Finances and Credit ก็ได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจไม่น้อยเช่นกัน 

 

8. John D. Arnold (USA)

อายุ : 36 ปี
ชาติ : สหรัฐอเมริกา 

ทรัพย์สิน : 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ 
ที่มาของความมั่งคั่ง : กองทุนพลังงาน 
เขาคือเด็กมหัศจรรย์ของวงการค้าพลังงาน บิดาของเขาเป็นนักกฎหมาย มารดาเป็นนักบัญชี ตัวเขาจบการศึกษาจาก Vanderbilt University ในเวลาเพียง 3 ปี และถูกจ้างโดยบริษัท Enron ในปี 1995 ว่ากันว่า อีก 5 ปีต่อมา เขาคือผู้ทำกำไรจากการซื้อขายพลังงานธรรมชาติผ่านทางอินเตอร์เนตให้กับบริษัท Enron มากเกือบพันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้เขาได้รับโบนัสเป็นเงินถึง 8 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2001 
John D. Arnold ตั้งกองทุนประกันความเสี่ยง (Hedge fund) ในชื่อ Centaurus Energy ขึ้นมาเมื่อปี 2002 ภายหลังจากที่บริษัท Enron ได้ล้มละลายไป 
กองทุนซื้อขายพลังงานธรรมชาติของเขานี้ สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างน่ามหัศจรรย์ คือ สูงถึง 85% ในปี 2008 และ 26% ในปี 2009 ทำให้สินทรัพย์ของกองทุนมีมูลค่าถึง 5,500 ล้านเหรียญสหรัฐในปัจจุบัน 


7. Yoshikazu Tanaka (JAPAN)
อายุ : 33 ปี
ชาติ : ญี่ปุ่น 

ทรัพย์สิน : 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ 
ที่มาของความมั่งคั่ง : เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Gree) 
Yoshikazu Tanaka เป็นมหาเศรษฐีพันล้านเหรียญอันดับที่ 2 ของโลก ที่สร้างความร่ำรวยขึ้นด้วยตัวเอง เป็นรองเพียง Mark Zuckerberg แห่ง Facebook เท่านั้น และธุรกิจของทั้งสองก็อยู่ในประเภทเดียวกันด้วย นั่นคือธุรกิจเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งกำลังบูมสุดๆ ในยุคนี้ 
Tanaka เริ่มงานเป็นพนักงานให้กับบริษัท Sony จากนั้นก็ย้ายไปทำงานให้กับมหาเศรษฐี Hiroshi Mikitani ผู้ก่อตั้ง Rakuten ห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ทำให้ Tanaka มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านเทคโนโลยีเกมจาก Sony และการทำธุรกิจผ่านอินเตอร์เนตจาก Rakuten 
ในปี 2004 เขาจึงสร้างเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ขึ้นมา และให้ชื่อมันว่า Gree โดยได้แรงบันดาลใจมาจากทฤษฎีหกช่วงคน (Six degrees of separation) ของ Stanley Milgram นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ที่ว่า มนุษย์เราทุกคนนั้นล้วนมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงถึงกัน โดยผ่านบุคคลที่เป็นตัวกลางไม่เกิน 6 คนเท่านั้น 
เวลาต่อมา Tanaka ได้ปรับธุรกิจของเขาให้เข้ากับโทรศัพท์มือถือ และกลายเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ผ่านทางเกมออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือ โดยมีผู้สมัครเป็นสมาชิกราวหนึ่งล้านรายต่อเดือน และสมาชิกเหล่านี้ก็คือผู้สร้างรายได้ให้กับเว็บไซต์ Gree ด้วยการซื้อสินค้าเสมือนจริง เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ อาวุธ เวทมนต์ ของวิเศษ ซึ่งจะถูกนำมาใช้ประกอบการเล่นในเกมออนไลน์ 
ปัจจุบัน Gree เป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีจำนวนสมาชิกมากเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น รองจาก Mixi แต่ถ้าวัดจากรายได้ Gree จะอยู่ในอันดับที่ 1 

 

6. Aymin Hariri (LEBANON)

อายุ : 31 ปี
ชาติ : เลบานอน 

ทรัพย์สิน : 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ 
ที่มาของความมั่งคั่ง : การก่อสร้าง และการลงทุน 
ลูกชายอีกคนหนึ่งของ Rafiq Hariri ที่รับช่วงธุรกิจจากบิดาเช่นเดียวกับ Fahd Hariri น้องชายของเขา แต่ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อช่วยขยายธุรกิจของครอบครัวในต่างแดน โดยเฉพาะด้านโทรคมนาคม สื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่พี่ชายของเขาคือ Saad Hariri ช่วยสนับสนุนด้านนโยบายการเมือง ในฐานะนายกรัฐมนตรีของเลบานอนคนปัจจุบัน 

 

5. Fahd Hariri (LEBANON)

อายุ : 29 ปี
ชาติ : เลบานอน 

ทรัพย์สิน : 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ 
ที่มาของความมั่งคั่ง : การก่อสร้าง และการลงทุน 
ลูกชายคนเล็กของ Rafiq Hariri นักธุรกิจและอดีตนายกรัฐมนตรีเลบานอน เขารับช่วงธุรกิจก่อสร้างในบริษัท Saudi Oger ธุรกิจโทรคมนาคม และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากบิดาที่เสียชีวิตลงเมื่อปี 2005 นอกจากนั้นยังมีธุรกิจสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม Future TV ที่แพร่ภาพไปทั่วตะวันออกกลาง และมีรายงานข่าวว่า Fahd Hariri อาศัยอยู่ในดูไบ เพื่อเข้าไปทำโครงการลงทุนที่นั่น เช่น โรงแรมห้าดาวซึ่งจะเปิดให้บริการในเมืองอาบูดาบีในปี 2011 

 

4. Li Zhaohui (CHINA) 

อายุ : 29 ปี
ชาติ : จีน 

ทรัพย์สิน : 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ 
ที่มาของความมั่งคั่ง : อุตสาหกรรมเหล็ก 
ขึ้นเป็นประธานบริษัท Shanxi Haixin Iron & Steel Group หลังจากบิดาถูกยิงเสียชีวิตเมื่อปี 2003 บริษัทแห่งนี้มีฐานหลักอยู่ที่มณฑลซานซี เป็นหนึ่งในบริษัทอุตสาหกรรมเหล็กของเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในจีน ผลิตภัณฑ์หลักประกอบด้วย แร่เหล็ก เหล็กกล้า เหล็กเส้น และปูนซีเมนต์ สินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทมีมูลค่าประมาณ 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ มีคนงานราว 7,200 คน 
หลังจาก Li Zhaohui ขึ้นมาบริหารงาน เขาได้แตกธุรกิจไปสู่ภาคการเงินด้วย ทั้งบริษัทจัดการกองทุน บริษัทประกัน และบริษัทหลักทรัพย์ ส่วนในด้านชีวิตครอบครัว เขาเพิ่งแต่งงานกับดาราจีนชื่อ Che Xiao ไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา 

 

3. Yang Huiyan (CHINA) 

อายุ : 29 ปี
ชาติ : จีน 

ทรัพย์สิน : 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ 
ที่มาของความมั่งคั่ง : อสังหาริมทรัพย์ 
ประธานและ CEO ของ Country Garden บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ในประเทศจีน เธอได้รับโอนหุ้นมาจาก Yang Guoqiang ผู้เป็นบิดาเมื่อปี 2005 และกลายเป็นหญิงที่ร่ำรวยที่สุดของเอเชียเมื่อปี 2007 จากการจัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes  
ปัจจุบันเธอพยายามขยายการลงทุนออกจากฐานหลักที่มณฑลกวางตุ้ง ไปยังพื้นที่อื่นของจีนแผ่นดินใหญ่ เช่น การชนะประมูลโครงการพัฒนาที่ดินในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย 



2. Albert Prinz von Thurn und Taxis (GERMANY)

อายุ : 27 ปี
ชาติ : เยอรมนี 

ทรัพย์สิน : 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ 
ที่มาของความมั่งคั่ง : มรดกตระกูล  
เจ้าชายพระองค์ที่ 12 แห่งราชวงศ์ Thurn and Taxis ของเยอรมัน เป็นผู้สืบทอดสมบัติของตระกูลหลังจากบิดาเสียชีวิตเมื่อปี 1990 ได้รับการศึกษาระดับมัธยมที่ประเทศอิตาลี และจบการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ และศาสนา จาก University of Edinburgh ในสก๊อตแลนด์ 
ทรัพย์สมบัติมูลค่ามหาศาลที่ได้รับสืบทอดมานั้น ประกอบไปด้วย อสังหาริมทรัพย์ บริษัทด้านเทคโนโลยี และพื้นที่ป่าไม้ 300 ล้านตารางเมตรในประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ถือครองพื้นที่ป่าไม้ผืนใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในทวีปยุโรป 
นอกจากจะเป็นมหาเศรษฐีวัยหนุ่มแล้ว เจ้าชาย Albert ยังติดอันดับที่ 11 ของเชื้อพระวงศ์หนุ่มสุดฮอต จากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes เมื่อปี 2008 ด้วย 

>>>>> แต่น..แตน..แต๊น.. มาถึงอันดับ 1 แล้ว เพื่อนๆ ลองคิดเล่นๆ ดูนะคะว่าเป็นใครกันน้า ฮ้า...เพื่อนๆ เก่งมากเลย ใช่แล้วค่ะ อันดับ 1 ก็คือ เจ้าพ่อ FACEBOOK ของเรานี่เองแหละ เก่งจังเลย ตัวแค่เนี้ย..^_^ >>>>> 

1. Mark Zuckerberg  (USA)


อายุ : 26 ปี
ชาติ : สหรัฐอเมริกา
ทรัพย์สิน : 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ 

ที่มาของความมั่งคั่ง : เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Facebook) 
มหาเศรษฐีพันล้านเหรียญที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก เขาคือผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Facebook เครือข่ายสังคมออนไลน์อันดับหนึ่งของโลก หนุ่มน้อย Zuckerberg ใช้ห้องพักในมหาวิทยาลัย Harvard ที่เขากำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 เป็นสถานที่ผลิตเว็บไซต์ Facebook และเผยแพร่ทางอินเตอร์เนตในปี 2004 โดยเริ่มแรกเขามุ่งหวังให้เพื่อนนักศึกษาได้ใช้มันเป็นหนังสือรุ่นออนไลน์ แต่ปรากฏว่า Facebook ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และแผ่ขยายไปยังมหาวิทยาลัยอื่นทั่วสหรัฐอเมริกา โดยถูกใช้เป็นพื้นที่สำหรับติดต่อสื่อสารกัน หรือที่เรียกว่า เครือข่ายสังคมออนไลน์ 
เพียงไม่ถึง 1 ปี เว็บไซต์ Facebook ก็มีจำนวนสมาชิกทะลุ 1 ล้านราย ทำให้ Zuckerberg ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยทั้งๆ ที่ยังเรียนไม่จบปริญญาตรี เพื่อมาบริหารงานเว็บไซต์นี้อย่างจริงจัง และเวลาเพียงไม่ถึง 6 ปี ปัจจุบันเว็บไซต์ Facebook มีจำนวนสมาชิกทั่วโลกกว่า 500 ล้านราย (ประเทศ Facebook มีพลเมืองมากกว่าประเทศไทยเกือบ 8 เท่า) ถ้าวัดจากปริมาณการถูกเข้าใช้งาน เว็บไซต์ Facebook จะมากเป็นอันดับที่ 2 ของโลก (รองจาก Google) โดยมีจำนวน Page Views ประมาณ 20,000 ล้านเพจต่อวัน  
ในปีนี้ Facebook ทำรายได้ประมาณ 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 38% จากเมื่อปีก่อน ทำให้ Zuckerberg ที่เป็นผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท มีทรัพย์สินเป็นมูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในวัยเพียง 26 ปี และภายในเวลาเพียง 5 ปีนับจาก Facebook เป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์ 


เอาล่ะค่ะ สาระเอ็นจอยโลก (saraenjoyworld) ก็พาเพื่อนๆได้มารู้จักมหาเศรษฐีระดับโลกที่อายุน้อยที่สุดประจำปี 2010 กันแล้วนะคะ คราวหน้าจะเป็นอะไร เพื่อนๆ อย่าลืมติดตามบล็อก สาระเอ็นจอยโลก (saraenjoyworld) นี้ต่อไปนะคะ  ถ้าถูกใจ ก็กด "Like" ให้ด้วยนะคะ

2/06/2554

10 อันดับวัดที่สวยที่สุดในโลก (Top 10 the most beautiful Temple in the world)

    วันนี้สาระเอ็นจอยโลก (saraenjoyworld) จะพาเที่ยววัดกันนะคะ  10 วัดกันเลยทีเดียว แต่เอ ! มีใครรู้บ้างว่าในโลกนี้วัดไหนสวยที่สุดคะ ถ้าใครไม่รู้เดี๋ยว saraenjoy จะพาคุณไปค่ะ มีวัดไทยรวมอยู่ด้วยนะจะบอกให้

   เอาล่ะค่ะ พร้อมกันรึยัง กายพร้อมใจพร้อม สตางค์อยู่ครบ ... อิอิ... ไปกันเลยค่ะ  Let's go...

10 อันดับวัดที่สวยที่สุดในโลก

อันดับ 10   Ankor Wat : the largest temple in history
 
ปราสาทนครวัด ( Angkor Wat) เป็นเทวสถานฮินดูลัทธิไวษณพนิกาย ที่นับถือพระวิษณุเป็นเทพเจ้าสูงสุด สร้างโดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2   เมื่อช่วงครึ่งแรกคริสต์ศตวรรษที่ 12 เพื่ออุทิศถวาย แด่องค์พระวิษณุที่พระองค์เชื่อว่า เป็นร่างของพระองค์เอง ในขณะที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ และหลังจากสิ้นพระชนม์ไปแล้ว   ศาสนสถานแห่งนี้ ก็จะเป็นพระราชสุสานที่พระองค์ จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระวิษณุ


อันดับ 9 The Temple of Srirangam  ( SriRanganathaswamy Temple )
วัดนี้อยู่ในประเทศอินเดีย เมือง Tiruchirapalli  
หรือ Trichy เป็นวัดของศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 อันดับ 8   The Harmandir Sahib : the Golden Temple in Punjab
วิหารฮัรมันดิร ซาฮิบ หรือ วิหารทองคำ เป็นวิหารที่สำคัญที่สุดในศาสนาซิก ตั้งอยู่ที่เมืองอัมริตสาร์ เมืองหลวงของ
แคว้นปัญจาบ ทางภาคเหนือของประเทศอินเดีย

 
อันดับ 7 Borobudur, Indonesia
บุ โรพุทโธ ( Borobudur ) พุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์ ที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8-9 โดยกษัตริย์ราชวงศ์ไศเลนทร   ตั้งอยู่บนเนินสูงของเกาะชวาภาคกลาง ห่างจากเมือง ยอกยากาตาร์ ( Yogyakata ) ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 40 กิโลเมตร ถือเป็นโบราณสถาานขนาดใหญ่   และเป็นศูนย์รวมแห่งความภาคภูมิใจของชาวอินโดนิเซีย   และชาวพุทธทุกคน ซึ่งหวังจะไปแสวงบุญสักครั้งในชีวิต
เจดีย์บุโรพุทโธรูปทรงดอกบัวนี้ก่อสร้างตามแบบศิลปะฮินดู-ชวา
 หรือศิลปะชวาภาคกลางที่ผสมผสาานระหว่างอินเดียและ      อินโดนีเซีย ได้อย่างกลมกลืนที่สุด บุโรพุทโธเปรียบเป็นศูนย์กลางของจักรวาล

อันดับ 6 Chion-in Temple : Kyoto , Japan
วัดจิออนอิน ( Chion-in temple) พื้นที่ของวัดนั้ใหญ่โตอลังการ   แทรกตัวอยู่ในเขาเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นมาก   วัดนี้สร้างในปี ค.ศ. 1234 เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ก่อตั้ง ศาสนาพุทธนิกายโจโด เป็นนักบวช ชื่อว่า Honen 

อันดับ 5  Temple of Heaven : a Taoist temple in Beijing
หอฟ้าเทียนถานเป็นสถานบวงสรวงเทพยดาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งยังคง รัก ษาไว้ในจีน ประกอบด้วยตําหนักฉีเหนียนเตี้ยน ตําหนักหวงฉงอี่   และลานหยวนชิว เป็นต้น เทียนถานตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกรุงปักกิ่ง   มีเนื้อที่ทั้งหมด ๒๗๓ เฮกต้าร์ เป็นสถานซึ่งจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง   และราชวงศ์ชิงใช้เป็นที่บวงสรวงเทพยดา ในระยะย่างเข้าฤดูหนาว ถึงเดือนอ้ายตามจันทรคติทุกปี พระจักรพรรดิจะเสด็จไปประกอบ พระราชพิธีบวงสรวงที่นั่นเพื่อให้การเก็บเกี่ยวได้ผลอุดม

อันดับ 4 The Shwedagon Paya (or Pagoda), Myanmar
พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ   เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุ พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น ตามตำนาน เจดีย์ชเวดากองนั้นสร้างเมื่อง 2,500 ปีที่แล้ว   แต่นักโบราณคดีเชื่อกันว่าสร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 6-10   สร้างโดยชาวมอญ ตามตำนานนั้นเริ่มจากว่า มีสองพี่น้อง พ่อค้า 2 คน ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้ามา พระองค์จึงประทานพระเกศามา 8 เส้น พระเจดีย์ได้ถูกทิ้งร้างจนมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 รัชสมัยพระเจ้าพินยาอู   ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเจดีย์ใหม่สูง 18 เมตร พระเจดีย์ได้ถูกซ่อมแซมมาเรื่อยมา จนมามีความสูง 98 เมตรในปัจจุบันบนยอดสุดของพระเจดีย์ มีเพชรอยู่ 5,448 เม็ด โดยเฉพาะชั้นข้างบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่ 72 กะรัต และทับทิม 2,317 เม็ด

อันดับ 3   rambanan : Hindu temple, Indonesia
วัดฮินดูพรัมบานัน : Prambanan Temple พรัมบานันเป็นวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซียหรือจะเรียกว่า ใหญ่ที่สุดในเอเซียอาคเนย์เลยก็ได้ ตั้งอยู่ที่เมืองพรัมบานัน   ตอนกลางของเกาะชวา และอยู่ไม่ไกลจากยอกยากาตาร์มากนัก วัดถูกสร้างขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ. 1340 โดยสันนิษฐานว่า น่าจะสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ Rakai Pikatan   จากราชวงศ์ Mataram ที่ 2 หรืออาจะสร้างในสมัยกษัตริย์  Balitung Maha Samba จากราชวงศ์ Sanjaya   ได้รับความเสียหายมากในช่วงปี 2006 เพราะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่นี่

 

อันดับ 2 Wat Rong Khun in Chiang Rai
วัดร่องขุน (Wat Rong Khun) ออกแบบและก่อสร้างโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งปรารถนาจะสร้างวัด ให้เหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้ เริ่มสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2540 จากเดิมมีเนื้อที่ 3 ไร่ ได้ซื้อที่ดินเพิ่มและมีผู้บริจาค คือคุณวันชัย วิชญชาคร จนปัจจุบันมีเนื้อที่ 9 ไร่ 

อันดับ 1 Tiger's Nest Monastery, Phutan
ถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุด ของภูฐาน ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 700 เมตร จากพื้นล่างในหุบเขาปาโร และด้วยระดับความสูง 3,120 เมตร   จากระดับน้ำทะเล ฉายาว่า "รังเสือ" ของวัดนี้ ได้มาจากตำนานเก่า   ที่เล่าว่า พระรินโปเช (Padmasambhava - Guru Rinpoche)   ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่นิกายมหายานในภูฐานได้เหาะมาที่นี่บนหลังเสือ   และได้เข้าไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานอยู่ในถ้ำ เป็นเวลาถึง 3 เดือน   หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2227 จึงเริ่มมีการสร้างวัดขึ้น        

    เป็นยังไงคะเหนื่อยมั๊ยคะ วันนี้ สาระเอ็นจอยโลก (saraenjoyworld) พาคุณเที่ยวถึง 10 วัดเลยนะคะ หวังว่าทุกท่านจะชอบนะคะ ยังไงแนะนำติชมกันได้นะคะ ขอบคุณค่ะ บ๊าย บาย >>>....




เกม เพลง เกมส์ เนื้อเพลง เกมส์ออนไลน์